Posts List

Health

  • กลาก มีสาเหตุมาจากอะไร สามารถป้องกันและรักษาได้อย่างไร
    กลาก มีสาเหตุมาจากอะไร สามารถป้องกันและรักษาได้อย่างไร

    กลาก เป็นโรคเชื้อราบนผิวหนังมีลักษณะเป็นวงแดงหรือขุยสีขาว สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่มักจะพบบ่อยในเด็ก เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ สามารถติดจากคนและสัตว์ด้วยการสัมผัส สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงการเกิดโรคได้ แต่ถ้าหากเป็นกลากแล้วรักษาเบื้องต้นไม่หายควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา

    กลาก คือโรคอะไร

    กลาก (Ringworm) เป็นโรคติดเชื้อราบนผิวหนังที่ปรากฏเป็นวงแดงหรือขุยสีขาว และอาจมีอาการอักเสบคล้ายผื่นแดงร่วมด้วยได้ สามารถขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่หนังศีรษะ ใบหน้า มือ เท้า เล็บ และขาหนีบ

    โรคกลากสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่มักจะพบบ่อยในเด็ก เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งแพทย์อาจรักษาด้วยการให้ยาชนิดต่างๆ เช่น ยารับประทาน ยาทา โดยดูจากสาเหตุของการเกิดและความรุนแรงของโรค รวมทั้งอาจแนะนำให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างด้วย

    อาการของโรคกลาก

    กลากที่เกิดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกายจะมีอาการแตกต่างกันไปดังนี้

    • กลากที่หนังศีรษะ

    มักเกิดกับเด็กช่วงวัยใกล้โตหรือวัยรุ่น อาการโดยทั่วไปมักทำให้หนังศีรษะตกสะเก็ดเป็นจุดเล็กๆ เจ็บเมื่อสัมผัส ผมร่วงเป็นหย่อมๆ และคันหนังศีรษะ ส่วนในรายที่อาการรุนแรงอาจมีตุ่มหนองเล็กๆ บนหนังศีรษะ มีสะเก็ดแห้ง และผมร่วงจนศีรษะล้านเป็นหย่อมๆ แต่หากร้ายแรงมากอาจทำให้เจ็บและพุพองเป็นแผลขนาดใหญ่ที่เรียกว่าชันนะตุ มีหนองไหล และตามมาด้วยเป็นไข้และภาวะต่อมน้ำเหลืองโต

    • กลากที่ร่างกายและผิวหนังทั่วไป

    มักทำให้เกิดอาการคัน แดง ระคายเคืองรอบวงกลาก มักปรากฏเป็นขอบชัดเจนและแดงกว่าบริเวณผิวหนังปกติ แต่ตรงกลางของวงจะปรากฏในลักษณะผิวหนังสีปกติ ในกรณีที่รุนแรง อาจมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือรวมกันเป็นวงใหญ่ เป็นรอยนูนขึ้นมา คันภายใต้ผิวหนัง และอาจมีตุ่มพองหรือตุ่มหนองเกิดขึ้นรอบวง

    • กลากที่เท้า (เชื้อราที่เท้า)

    รู้จักกันในชื่อน้ำกัดเท้าหรือฮ่องกงฟุต เป็นโรคทางผิวหนังที่พบได้บ่อย การติดเชื้อราที่เท้าอาจทำให้เกิดอาการแห้ง คัน มีผื่นแดงเป็นแผ่นบริเวณง่ามนิ้ว โดยเฉพาะนิ้วนางและนิ้วก้อย หากรุนแรงอาจมีอาการผิวหนังแตกแห้ง เป็นตุ่มพอง เป็นขุยสะเก็ด ผิวหนังบวม แสบหรือเจ็บๆ คันๆ ที่ผิวหนัง และอาจมีผิวหนังแห้งเป็นขุยรอบๆ ฝ่าเท้า ง่ามนิ้ว และด้านข้างของเท้า

    • กลากบริเวณขาหนีบหรือโรคสังคัง

    พบได้บ่อยในเพศชายวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ มักเกิดเป็นสีน้ำตาลแดง อาจมีอาการเจ็บ เกิดตุ่มพองหรือเป็นตุ่มหนองรอบๆ วง มีอาการคันและแดง และอาจมีผิวหนังเป็นแผ่นตกสะเก็ดรอบบริเวณขาหนีบ เช่น ต้นขาด้านในและก้น นอกจากนี้ยังอาจขยายไปสู่ต้นขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง มีสาเหตุมาจากเหงื่อ อากาศที่ร้อนชื้น หรือการเสียดสีจากเสื้อผ้า

    • กลากที่ใบหน้าและลำคอ

    กลางที่เกิดในบริเวณนี้อาจไม่ปรากฏเป็นดวงคล้ายวงแหวนอย่างชนิดอื่นๆ แต่เกิดเป็นอาการคัน บวม และแห้งจนเป็นสะเก็ด ซึ่งหากเกิดที่บริเวณหนวดอาจทำให้หนวดหลุดร่วงเป็นหย่อมได้

    • กลากที่มือ

    จะทำให้ผิวหนังบริเวณฝ่ามือและง่ามนิ้วหนาขึ้น โดยอาจเป็นข้างเดียวหรือเป็นทั้งสองข้างพร้อมกัน แต่ส่วนใหญ่มักพบแค่ข้างเดียว

    • กลากที่เล็บ

    เป็นโรคเชื้อราที่เล็บชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย อาจทำให้เจ็บปวดและระคายเคืองผิวหนังบริเวณรอบ โดยเล็บมือที่ติดเชื้อรานี้จะดูขาว ขุ่นทึบ หนา และหักง่าย แต่หากเกิดขึ้นที่นิ้วเท้าอาจจะมีสีออกเหลือง หนา และแตกหักง่าย ทั้งนี้ผู้ที่ติดเล็บปลอมจะยิ่งทำให้เสี่ยงเกิดเชื้อราที่เล็บ เนื่องจากที่ตะไบเล็บอาจเป็นตัวสะสมเชื้อรา รวมถึงน้ำที่อาจสะสมอยู่ใต้เล็บปลอม เป็นเหตุให้เชื้อราเติบโตได้ดีจากความชื้น

    สาเหตุของโรคกลาก

    เกิดจากเชื้อราที่ผิวหนังในกลุ่มเดอมาโทไฟท์ (Dermatophytes) เชื้อราเหล่านี้จะอาศัยอยู่บนชั้นเนื้อเยื่อโปรตีนเคราตินบนผิวหนังที่ตายแล้วเท่านั้น แต่มักจะไม่เข้าสู่ร่างกายหรือเยื่อบุผิวอย่างปากหรือจมูก

    เชื้อราเป็นสปอร์เล็กๆ ที่มีความคงทนและสามารถอยู่รอดบนผิวหนังของมนุษย์ ตามพื้นดิน หรือตามสิ่งของต่างๆ ได้เป็นเวลาหลายเดือน และยังเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างเช่นในประเทศไทย จึงเกิดการแพร่กระจายได้ง่าย

    โดยสามารถติดจากคนและสัตว์ด้วยการสัมผัส การจับสิ่งของที่มักมีเชื้อรานี้เกาะอยู่ เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หวี และแปรงสีฟัน หรือติดจากดินในกรณีที่ต้องทำงานหรือยืนเท้าเปล่าบนพื้นดินที่มีเชื้อรา

    บุคคลต่อไปนี้อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อราได้ง่าย

    • เด็กอ่อนหรือผู้สูงอายุที่อายุมากแล้ว
    • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐานมาก
    • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
    • ผู้เข้ารับการรักษาโรคที่ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่น การทำเคมีบำบัด หรือใช้ยาสเตียรอยด์
    • ผู้ที่เคยติดเชื้อรามาก่อน
    • ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1
    • ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
    • ผู้ที่มีการหมุนเวียนของโลหิตไม่ดี โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องซึ่งหลอดเลือดดำในขามีปัญหาในการพาเลือดกลับไปยังหัวใจ

    กลาก

    การวินิจฉัยและการรักษาโรคกลาก

    การวินิจฉัยการติดเชื้อราโรคกลาก แพทย์สามารถทำได้ด้วยการตรวจดูลักษณะและตำแหน่งที่เกิดด้วยตาเปล่า หรืออาจใช้แสงพิเศษส่องดูผิว โดยแสงนี้จะทำให้ผิวบริเวณที่ติดเชื้อราปรากฏเป็นสีเรืองแสงขึ้นมา นอกจากนี้ แพทย์อาจขูดเอาตัวอย่างผิวบริเวณที่ติดเชื้อหรือจากตุ่มพอง แล้วส่งไปที่ห้องแล็บเพื่อตรวจหาชนิดของเชื้อราโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดู เพื่อจะได้ทราบว่าเกิดจากเชื้อราชนิดใด และสามารถจ่ายยาที่เหมาะสมที่สุดได้ด้วย เพราะยาแต่ละตัวอาจมีประสิทธิภาพรักษาการติดเชื้อแต่ละชนิดได้ต่างกัน

    ในการรักษาผู้ป่วยโรคกลาก แพทย์จะสั่งจ่ายยาตามความรุนแรงของอาการและตำแหน่งที่เกิดการติดเชื้อ เช่น

    • เท้า ขาหนีบ หรือผิวหนังตามร่างกาย

    แพทย์มักแนะนำให้ใช้ยาต้านเชื้อราชนิดทา เช่น ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ยาโคลไตรมาโซล (Clotrimazole) หรือยาไมโคนาโซล (Miconazole) โดยให้ใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 2–6 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำ

    • หนังศีรษะ

    แพทย์จะสั่งจ่ายยาต้านเชื้อราชนิดรับประทาน เช่น ยากริซีโอฟูลวิน (Griseofulvin) หรือยาเทอร์บินาฟีน (Terbinafine) โดยระยะเวลาการใช้ยาจะอยู่ที่ประมาณ 1–3 เดือน นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ครีมหรือแชมพูต้านเชื้อราร่วมไปกับการรับประทานยาด้วย เช่น แชมพูคีโตโคนาโซล (Ketoconazole Shampoo) แชมพูซีลีเนียม (Selenium Shampoo) หรือครีมเทอร์บินาฟีน (Terbinafine Cream) โดยระยะเวลาและความถี่ในการใช้จะอยู่ที่ประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 2 สัปดาห์

    • มือ เล็บมือ และเล็บเท้า

    แพทย์จะพิจารณาการใช้ยาตามความรุนแรงของอาการ ในช่วงแรกมักให้ใช้ยาทาก่อน แต่หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ใช้ยาทาแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือเชื้อลุกลามไปที่เล็บและเริ่มมีความรุนแรง แพทย์อาจให้รับประทานยาร่วมด้วย โดยยาที่แพทย์อาจใช้ก็เช่น

    • ยาเทอร์บินาฟีน

    ให้รับประทานยาเทอร์บินาฟีนในปริมาณ 250 มิลลิกรัม/วัน วันละ 1 ครั้ง หากเป็นการติดเชื้อที่เล็บนิ้วมือให้รับประทานติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ส่วนการติดเชื้อที่เล็บเท้าให้รับประทานติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ในบางกรณีอาจมีการปรับเปลี่ยนปริมาณและระยะเวลาการใช้ยาตามดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา

    • ยาไอทราโคนาโซล (Itraconazole)

    ให้รับประทานยาในปริมาณ 200 มิลลิกรัม/วัน วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือแพทย์อาจให้รับประทานในปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 7 วัน จากนั้นให้หยุดยา 21 วัน และกลับมารับประทานยาแบบเดิมอีกรอบสำหรับผู้ที่ติดเชื้อที่เล็บมือ ส่วนผู้ที่ติดเชื้อที่เล็บเท้าจะให้หยุดยา 21 วัน ก่อนกลับมารับประทานยาแบบเดิม จากนั้นให้หยุดยา 21 วัน และกลับมารับประทานยาในลักษณะเดิมอีกครั้ง

    นอกจากการใช้ยาแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างร่วมด้วย เช่น เลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณที่ติดเชื้อ ซักทำความสะอาดเครื่องนอนและเสื้อผ้าทุกวัน ทำความสะอาดและเช็ดผิวให้แห้งเป็นประจำ รวมทั้งหมั่นรักษาสุขอนามัยที่มือ เท้า และผิวหนัง เพื่อหยุดการติดและแพร่กระจายเชื้อ

    ภาวะแทรกซ้อนและการป้องกันของโรคกลาก

    โรคการติดเชื้อจากราเป็นไปได้ยากที่จะแพร่ไปสู่ใต้ชั้นผิวหนังและทำให้เกิดอาการป่วยหรือภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายไม่แข็งแรง เช่น ผู้ป่วยโรคติดเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์อาจส่งผลให้การรักษาให้หายทำได้ยาก

    การลุกลามของกลากจากจุดหนึ่งไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย เพียงสัมผัสกับบริเวณที่ติดเชื้อ ผู้ป่วยจึงควรหมั่นล้างมือเพื่อป้องกันการแพร่ของเชื้อไปยังส่วนอื่นเพิ่ม

    นอกจากนี้หากผู้ป่วยเกาผิวหนังที่ติดเชื้อบ่อยๆ ก็อาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย จนทวีความรุนแรงของอาการขึ้น กรณีนี้แพทย์จึงอาจสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นด้วย

    การป้องกันโรคกลาก

    การป้องกันตนเองนั้นค่อนข้างทำได้ยาก เนื่องจากมีโอกาสบ่อยครั้งในการสัมผัสกับเชื้อราตามอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ในบ้าน และยังสามารถแพร่กระจายได้ง่ายเพียงการสัมผัส แม้แต่ในระยะที่ผู้ป่วยยังไม่เริ่มแสดงอาการก็ตาม การปฏิบัติตามข้อต่อไปนี้จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้

    • ป้องกันตนเองจากผู้ป่วยหรือสัตว์ที่มีการติดเชื้อโรค กลากในสัตว์มักปรากฏเป็นรอยขนร่วงเป็นหย่อม หรืออาจไม่สามารถสังเกตได้เลย ผู้เลี้ยงสัตว์ควรนำสัตว์เลี้ยงไปตรวจเพื่อป้องกันการเกิดโรคและติดเชื้อ
    • ล้างมือเป็นประจำเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
    • หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน โดยเฉพาะตามโรงเรียน ศูนย์เลี้ยงดูเด็ก โรงยิม และสระว่ายน้ำ
    • รักษาความสะอาดของร่างกาย เช็ดตัวและศีรษะให้แห้ง อย่าสวมใส่เสื้อผ้าที่ชื้น
    • อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลังจากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสร่างกายผู้อื่น
    • ควรสวมใส่รองเท้าเมื่อเดินในห้องล็อคเกอร์ ห้องน้ำ หรือห้องอาบน้ำสาธารณะ
    • หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า แปรงสีฟัน  ผ้าเช็ดตัว หรือข้าวของอื่นๆ
    • ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าหนาเป็นเวลานานในที่ที่มีอากาศร้อนหรือชื้น

     

    เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ

     

    ที่มาของบทความ

     

    ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่  killeenhouse.net

    สนับสนุนโดย  ufabet369

Economy

  • Tesco, Sainsbury’sและคู่แข่งเขาไม่ได้ทำเงินมากเกินไป
    Tesco, Sainsbury’sและคู่แข่งเขาไม่ได้ทำเงินมากเกินไป

    Tesco, Sainsbury’sและคู่แข่งกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ทำเงินมากเกินไป

    เครือใหญ่ส่วนใหญ่เพิ่งประกาศลดราคาสินค้าหลัก

    โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Sainsbury’s ประกาศล่าสุดว่าจะลงทุน 15 ล้านปอนด์เพื่อลดต้นทุนของปัจจัยพื้นฐาน เช่น ข้าว พาสต้า และไก่

    อย่างไรก็ตาม สินค้าบางอย่างเช่น นมและไข่ ยังคงมีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับราคาก่อนเกิดโควิด

    Jamie Keeble ผู้ร่วมก่อตั้ง Heck ผู้ผลิตไส้กรอกและเบอร์เกอร์ ซึ่งจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ส่วนใหญ่ บอกกับรายการ Today ของ BBC ว่า ราคาเนื้อหมูคาดว่าจะยังคงสูงต่อไปอีก 18 เดือนข้างหน้า

    เขากล่าวว่าวิธีเดียวที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะลดราคาได้

    คือการขอให้ซัพพลายเออร์ลดต้นทุน แต่เขาเสริมว่า: “แน่นอนว่าเราไม่อยู่ในสถานะที่จะเริ่มลดราคาสินค้าของเราได้

    “ในท้ายที่สุด [ซูเปอร์มาร์เก็ต] จะต้องลดส่วนต่างลง หากพวกเขาต้องการลดราคาบนชั้นวางจริงๆ นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำได้”

    ผู้บริหารซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งสี่คนสนับสนุนการเรียกร้องให้มีความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับราคาเชื้อเพลิง หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเน้นย้ำว่าราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลในไอร์แลนด์เหนือถูกลง อันเป็นผลจากการแชร์ข้อมูลกับคนขับอย่างกว้างขวาง

    การศึกษาโดยนักวิชาการที่ London School of Economics เมื่อเดือนที่แล้วพบว่าเกือบ 1 ใน 3 ของอัตราเงินเฟ้อของราคาอาหารตั้งแต่ปี 2019 เกิดจาก Brexit

    คาดขึ้นดอกเบี้ยหลังช็อกเงินเฟ้ออังกฤษ

    อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรยังคงสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน

    อัตราเงินเฟ้อซึ่งวัดอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาติดอยู่ที่ 8.7% ในเดือนพฤษภาคม

    ตัวเลขที่น่าตกใจนี้ได้รับแรงหนุนจากราคาเที่ยวบินและรถยนต์มือสองที่สูงขึ้น แต่ราคาอาหารในซูเปอร์มาร์เก็ตก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

    ในการแลกเปลี่ยนอย่างดุเดือดที่ PMQs ริชิ ซูนัคและผู้นำแรงงานเคียร์ สตาร์เมอร์ขัดแย้งกันว่าใครผิดใครถูก

    เซอร์เคียร์กล่าวหาพรรคอนุรักษ์นิยมว่าเป็นต้นเหตุของ “หายนะจำนอง” แต่นายกรัฐมนตรี นายสุนัค ตอกกลับโดยอ้างถึง “สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคโลก” และกล่าวว่าได้ใช้เงิน “หลายหมื่นล้าน” เพื่อช่วยเหลือประชาชนด้วยค่าครองชีพ

    Tesco, Sainsbury'sและคู่แข่งเขาไม่ได้ทำเงินมากเกินไป

    อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 4.75% ในวันพฤหัสบดี แต่บางคนแนะนำว่าตอนนี้อาจสูงถึง 5% อัตราที่เพิ่มขึ้นหมายความว่าเจ้าของบ้านกำลังเผชิญกับการชำระเงินจำนองที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    สถาบันวิจัยการคลัง (IFS) ผู้ทรงอิทธิพล เตือนว่าอัตราที่สูงขึ้นจะส่งผลให้รายได้ที่ใช้แล้วทิ้งลดลงมากกว่า 20% สำหรับผู้ถือจำนอง 1.4 ล้านราย

    Karen Ward สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ

    ของนายกรัฐมนตรี Jeremy Hunt กล่าวว่าธนาคาร “ลังเลเกินไป” ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเรียกร้องให้ธนาคาร “สร้างภาวะเศรษฐกิจถดถอย” เพื่อควบคุมราคาที่สูงขึ้น

    “เฉพาะเมื่อบริษัทรู้สึกประหม่าเกี่ยวกับอนาคตเท่านั้นที่พวกเขาจะคิดว่า ‘เอาล่ะ บางทีฉันอาจจะไม่ยอมให้ขึ้นราคาขนาดนั้นก็ได้’ หรือพนักงานเมื่อพวกเขาไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับงานของพวกเขาสักนิด ก็จะคิดว่า ‘โอ้ ฉัน จะไม่กดดันเจ้านายของฉันเรื่องค่าจ้างที่สูงกว่านี้'” เธอบอกกับรายการทูเดย์ของบีบีซี

    แต่แอนดรูว์ เซลลีย์ ผู้บริหารระดับสูงของ Bidfood UK ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอาหารขายส่งกล่าวว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น “ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง”

    “มันทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก พวกเขาจำเป็นต้องมองหาวิธีอื่นในการสนับสนุนธุรกิจเพื่อให้พวกเขาสามารถฝ่าฟันมรสุมได้” เขากล่าว

    นายกรัฐมนตรี Jeremy Hunt ดูเหมือนจะสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปโดยกล่าวว่าจะไม่ “ลังเลในความตั้งใจของเราที่จะสนับสนุนธนาคารแห่งประเทศอังกฤษในขณะที่พยายามที่จะบีบอัตราเงินเฟ้อออกจากเศรษฐกิจของเรา”

    เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเว็บของเรา

    จู๊ด เบลลิงแฮม,แรชฟอร์ดนำสไตล์ฟุตบอลมาสู่ปารีสแฟชั่นวีค

    แมนฯ ซิตี้,เชลซีตกลง 30 ล้านปอนด์สำหรับมาเทโอ โควาซิช

    โรค G6PD โรคผิดปกติทางพันธุกรรมจากแม่สู่ลูก

    หนังสือนำเที่ยวญี่ปุ่นที่ดีที่สุด

    ปีที่สองติดต่อกัน Mercedes นำหน้า Red Bull

    ขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com

    แหล่งที่มา https://www.bbc.com/news/business

    สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ killeenhouse.net